|
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย | |
ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.
วันจันทร์ทีj 25 มีนาคม 2556 ณ วัดเหมืองหม้อ หมู่ที่ 1,3,7,8
วันอังคารที่ 26 มีนาคม 2556 ณ วัดกาซ้อง หมู่ที่ 2,11
วันพุธที่ 27 มีนาคม 2556 ณ โรงเรียนบ้านปทุม หมู่ที่ 4,9,12
วันพฤหัสฯที่ 28 มีนาคม 2556 ณ วัดเหมืองค่า หมู่ที่ 5,6
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556 ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 10
คำแนะนำก่อนนำสุนัขและแมวมารับวัคซีน
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์มายังคนที่ร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่ง โรคนี้สามารถทำให้เสียชีวิตได้และยังไม่มียารักษา
สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่ใช่เพราะความเครียดจากอากาศร้อน โรคนี้เกิดขึ้นได้ในสัตว์เลือดอุ่นที่เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว กระต่าย วัว ควาย ม้า แพะ แกะ สุกร และสัตว์ป่า เช่น เสทอ หมี ลิง ชะนี กระรอก กระแต หรือแม้แต่สัตว์ปีกที่เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างค้างคาว และที่สำคัญที่สุด คือ คน โรคนี้กระจายได้มากในฤดูผสมพันธุ์ ในช่วงเดือนสิบสอง เพราะสุนัขจะต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมีย ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 1-2 เดือน สุนัขจึงมักแสดงอาการมากในช่วงหน้าร้อน
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าควรฉีดในสุนัขที่มีอายุ 2 เดือน ขึ้นไป และสุนัข-แมว หลังคลอดลูก 30-40 วันขึ้นไป ฉีดยาอีกครั้งตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ไม่ต้องรอให้ถึงหน้าร้อน ควรฉีดยาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
ข้อห้าม
1.ห้ามฉีดยาในขณะที่เป็นสัด(มดลูกจะเป็นหนอง)
2.ห้ามฉีดยาขณะที่ตั้งท้อง(เพราะสัตว์จะไม่มีแรงเบ่ง คลอดลูกไม่ออก)
3.ห้ามฉีดยาในขณะที่สัตว์ป่วยหรือหลังได้รับการผ่าตัด
การปฏิบัติตัวจากถูกสุนัขกัด
1.ล้างแผลทันทีด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ 2-3ครั้ง อย่าบีบหรือเค้นแผลเพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจาย
2.ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน-แอลกอฮอล์ 70% - ทิงเจอร์ไอโอดีน จะช่วยฆ่าเชื้อได้
3.รีบพบแพทย์ทันที เพื่อขอคำแนะนำการฉีดวัคซีน
4.กักขังสัตว์ที่กัดอย่างน้อย 15 วัน ถ้าสัตว์ตายให้แจ้งปศุสัตว์ทันที
ข่าว ณ. วันที่ 11 มี.ค. 2556 เวลา 15.01 น. โดย คุณ สุรารักษ์ ป่าหลวง
ผู้เข้าชม 892 ท่าน | |